รัฐเวอร์จิเนียที่มีการใช้ถ่านหินมายาวนานแต่เปลี่ยนมาใช้โซล่าร์เซลล์กลับเติบโตกว่า
รัฐเวอร์จิเนีย (อังกฤษ: Commonwealth of Virginia) เป็นรัฐของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เมืองหลวงของรัฐคือ ริชมอนด์ และเมืองที่ประชากรมากที่สุดคือ เวอร์จิเนียบีช เวอร์จิเนียเป็นรัฐที่มีภูมิทัศน์สวยงามมากเนื่องจากมีทั้งพื้นที่เป็นภูเขาและติดทะเล มีป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์
เวอร์จิเนียเป็นประเทศที่มีการใช้ถ่านหินมาอย่างยาวนาน แต่ผลการสำรวจในปัจจุบันพบว่ามีการใช้โซล่าร์เซลล์เพิ่มมากขึ้นอย่างมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมา และได้มีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆสำหรับการสร้างโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ซึ่งในเวอร์จิเนียนั้นมีอัตราการจ้างงานในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับโซล่าร์เซลล์มากกว่าถ่านหิน ซึ่งตัวเลขจากกรมเหมืองแร่เวอร์จิเนียและพลังงานแสดงให้เห็นการลดลง 40% ในจำนวนคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมถ่านหินในช่วงห้าปีที่ผ่านมา Henry Childress กล่าวว่า “ถ่านหินจะให้ผลงานมากขึ้นผมคิดว่าในระยะยาว แต่เราต้องตัดใจเพราะทุกคนรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะใช้ถ่านหินอีกต่อไป”
สำหรับตอนนี้แม้ว่าอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์มีพนักงานมากขึ้นในเวอร์จิเนียมากกว่าอุตสาหกรรมถ่านหิน นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งสำหรับรัฐที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกับถ่านหิน Alexander Winn ประธานมูลนิธิโซล่าร์ กล่าวว่า “เพวกมีความพยายามที่จะฝึกคนงานเหมืองถ่านหินใหม่และหวังว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ในขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์กลายเป็นภาคการจ้างงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงานของเวอร์จิเนีย”
งานพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนใหญ่อยู่ในการติดตั้งก่อสร้างและการผลิต ตัวเลขจาก Solar Foundation แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้เติบโตขึ้นประมาณ 65% จากปีที่ผ่านมา
ทำความรู้จักกับประเภทของพลังงาน
1.พลังงานใช้แล้วหมดไป
พลังงานใช้แล้วหมดไป หรือ เชื้อเพลิงฟอสซิล คือเชื้อเพลิงประเภทหนึ่งที่มีมาตั้งแต่บรรพกาล เกิดจากการเน่าเปื่อยทับถมของซากพืช ซากสัตว์ในชั้นใต้ดินหรือใต้ท้องทะเลเป็นเวลานานนับล้านปี โดยเป็นพลังงานที่สามารถใช้แล้วหมดไปได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและชั้นบรรยากาศของโลกโดยตรงจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พลังงานใช้แล้วหมดไป ได้แก่
-ถ่านหิน (Coal)
-พลังงานไฟฟ้า
-น้ำมันดิบ (Crude Oil)
-ปิโตรเลียม (Petroleum Product)
-ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas)
2.พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน
พลังงานสะอาด หรือ พลังงานหมุนเวียน คือพลังงานที่ใช้แล้วไม่หมดไป สามารถหามาทดแทนหรือผลิตขึ้นได้ใหม่อย่างไม่จำกัด ทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิต แปรรูป นำไปใช้ จนถึงการจัดการของเสียที่เหลือจากกระบวนการต่าง ๆ นั้นไม่ก่อให้เกิดผลเสียหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนพลังงานใช้แล้วหมดไป พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่
-พลังงานน้ำ (Water Energy)
-พลังงานลม (Wind Energy)
-พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy)
-พลังงานชีวภาพและพลังงานชีวมวล (Biogas Energy/Biomass Energy)
-พลังงานขยะ (Waste Energy)
-พลังงานใต้พิภพ (Geothermal Energy)
ความสำคัญของพลังงานทดแทน แบ่งออกได้ดังนี้
ด้านการอุปโภคและสาธารณูปโภค
ใช้เป็นแหล่งพลังงานเพื่อการอุปโภคและสาธารณูปโภคแทนแหล่งพลังงานเดิม เช่น การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ประโยชน์ภายในครัวเรือนหรือชุมชน
ด้านเศรษฐกิจ
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงต่างประเทศ เนื่องจากประชาชนหันมาใช้ผลผลิตจากแหล่งธรรมชาติที่ผลิตได้เองภายในประเทศ
ด้านการเกษตร
ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยการนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่านอกจากการบริโภค อีกทั้งยังช่วยลดของเสียจากการผลิตพืชอาหารเพื่อนำไปใช้ผลิตพลังงานทดแทน อันจะช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรอย่างยั่งยืนขึ้นไปอีก
ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม
การใช้พลังงานทดแทนจะช่วยลดผลกระทบ มลภาวะ และมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมอันเกิดจากกระบวนการแปรรูปเชื้อเพลิงฟอสซิล การเลือกใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานทดแทนจึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยในการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://wvtf.org/post/first-time-history-solar-jobs-outnumber-coal-jobs-virginia และ https://www.uac.co.th/th/knowledge-sharing/336/