
โซลาร์เซลล์บ้าน ช่วงหน้าฝนยังใช้งานได้อยู่ไหม ต้องระวังอะไรบ้าง
การติดตั้งโซลาร์เซลล์บ้านเป็นทางเลือกที่ดีในการประหยัดค่าไฟฟ้า แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน หลายคนอาจกังวลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะปัญหาการรั่วซึม ไฟฟ้าลัดวงจร หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโซลาร์เซลล์บ้าน ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงข้อควรระวังและวิธีการใช้งานที่ถูกต้องจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง มาดูกันดีกว่าว่ามีเรื่องไหนบ้างที่คุณควรใส่ใจเป็นพิเศษ หากต้องการใช้งานโซลาร์เซลล์ช่วงหน้าฝน
7 ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานโซลาร์เซลล์บ้านในช่วงหน้าฝน
1. การรั่วซึมของหลังคา
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาต้องมีการเจาะยึดอุปกรณ์ หากการติดตั้งไม่ได้มาตรฐานหรือขาดการบำรุงรักษาที่ดี อาจทำให้เกิดรอยรั่วซึมบริเวณจุดยึดแผงโซลาร์เซลล์บ้าน น้ำฝนสามารถซึมผ่านเข้าไปทำความเสียหายกับโครงสร้างหลังคาและตัวบ้านได้
2. ไฟฟ้าดูดและการลัดวงจร
น้ำฝนที่ท่วมขังบริเวณระบบไฟฟ้าของโซลาร์เซลล์บ้านอาจก่อให้เกิดการลัดวงจรหรือไฟฟ้ารั่ว โดยเฉพาะในจุดเชื่อมต่อสายไฟหรือกล่องควบคุมที่ไม่ได้รับการป้องกันน้ำอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ความเสียหายอาจลุกลามไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้าน และอาจเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ในกรณีร้ายแรง
3. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
เมฆฝนและละอองน้ำบนแผงโซลาร์เซลล์บ้านส่งผลโดยตรงต่อการรับแสงอาทิตย์ ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าลดลงอย่างมาก แม้ว่าแผงโซลาร์เซลล์จะยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในวันที่มีเมฆมาก แต่กำลังการผลิตอาจลดลงถึง 40-70% ในช่วงเวลาดังกล่าว คุณควรวางแผนการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมและอาจต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพิ่มขึ้น
4. การเกิดเชื้อราบนแผงโซลาร์เซลล์
ความชื้นสะสมและคราบสกปรกที่เปียกน้ำบนแผงโซลาร์เซลล์บ้านเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ซึ่งนอกจากจะบดบังแสงแล้ว ยังอาจกัดกร่อนวัสดุและทำให้อายุการใช้งานของแผงสั้นลง จำเป็นต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เชื้อราที่เกิดขึ้นอาจแพร่กระจายไปยังพื้นผิวอื่นๆ ของหลังคา และอาจส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในบ้านได้หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน
5. ระบบสายไฟมีการชำรุด
น้ำฝนอาจทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะสายไฟที่เดินภายนอกอาคาร การตรวจสอบสภาพสายไฟและจุดเชื่อมต่อต่างๆ ของระบบโซลาร์เซลล์บ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น สายไฟที่ชำรุดอาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ซึ่งนอกจากจะสูญเสียพลังงานแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางไฟฟ้า
6. ระบบตัดไฟมีปัญหา
ความชื้นและน้ำฝนอาจทำให้อุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ระบบไม่สามารถตัดไฟได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร หรือแรงดันไฟฟ้าเกิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง นอกจากนี้ ระบบอาจตัดไฟโดยไม่จำเป็นในขณะที่ฝนตก ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งานและอาจส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าสำคัญในบ้าน
7. อันตรายจากฟ้าผ่า
ระบบโซลาร์เซลล์บ้านที่ติดตั้งบนหลังคามีความเสี่ยงสูงที่จะถูกฟ้าผ่า การติดตั้งระบบป้องกันฟ้าผ่าที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเกิดฟ้าผ่าขึ้น อาจสร้างความเสียหายรุนแรงต่อระบบไฟฟ้าทั้งหมดในบ้าน รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับระบบ ความเสียหายอาจรุนแรงถึงขั้นต้องเปลี่ยนแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ควบคุมทั้งชุด
ในวันที่ฝนตก ใช้งานโซลาร์เซลล์อย่างไรให้ปลอดภัย
- ตรวจสอบระบบแจ้งเตือนความผิดปกติให้พร้อมใช้งานเสมอ
- หมั่นทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์และกำจัดเศษใบไม้ที่ทับถม
- ตรวจสอบจุดรั่วซึมและซ่อมแซมทันทีที่พบปัญหา
- ติดตั้งระบบระบายน้ำรอบแผงให้มีประสิทธิภาพ
- เลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากที่ได้มาตรฐาน
- ตรวจสอบระบบสายดินให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเช็กระบบอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง
สรุป
การใช้งานโซลาร์เซลล์บ้านในช่วงหน้าฝนไม่ใช่เรื่องน่ากังวลหากมีการเตรียมพร้อมที่ดี การตระหนักถึงความเสี่ยงและดูแลระบบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณยังสามารถใช้งานโซลาร์เซลล์ได้อย่างปลอดภัย แม้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าอาจลดลงไปบ้างในช่วงฝนตก แต่ระบบยังคงทำงานได้หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
หากคุณสนใจอยากจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว การเลือกบริษัทติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้มาตรฐานอย่าง KG Solar จะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมาก เนื่องจากทีมงานมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งและพร้อมให้คำแนะนำเรื่องการดูแลรักษาระบบโซลาร์เซลล์บ้านอย่างถูกวิธี และยังมีบริการหลังการขายที่จะคอยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่คุณพบเจอตลอดการใช้งาน