• บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์
    • โซลาร์เซลล์สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย
    • โซลาร์เซลล์สำหรับโรงงาน
  • ผลงาน KG SOLAR
    • ผลงานบ้านพักอาศัย
    • ผลงานอาคารโรงงาน
  • บทความข่าวสาร
    • ข่าวสาร
    • บทความที่น่าสนใจ
    • พลังงานทางเลือก
    • พลังงานในชีวิตประจำวัน
  • ติดต่อเรา KG SOLAR
    • เกี่ยวกับเรา
  • บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์
    • โซลาร์เซลล์สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย
    • โซลาร์เซลล์สำหรับโรงงาน
  • ผลงาน KG SOLAR
    • ผลงานบ้านพักอาศัย
    • ผลงานอาคารโรงงาน
  • บทความข่าวสาร
    • ข่าวสาร
    • บทความที่น่าสนใจ
    • พลังงานทางเลือก
    • พลังงานในชีวิตประจำวัน
  • ติดต่อเรา KG SOLAR
    • เกี่ยวกับเรา
  • บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์
    • โซลาร์เซลล์สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย
    • โซลาร์เซลล์สำหรับโรงงาน
  • ผลงาน KG SOLAR
    • ผลงานบ้านพักอาศัย
    • ผลงานอาคารโรงงาน
  • บทความข่าวสาร
    • ข่าวสาร
    • บทความที่น่าสนใจ
    • พลังงานทางเลือก
    • พลังงานในชีวิตประจำวัน
  • ติดต่อเรา KG SOLAR
    • เกี่ยวกับเรา
บทความที่น่าสนใจ
27 September 2022by admin

5 เทคนิค Work From Home ให้ค่าไฟไม่พุ่ง

#เทคนิคประหยัดไฟ #ลดค่าไฟ #workfromhome #wfh #ลดค่าไฟฟ้า #โซลาร์เซลล์ #ประหยัดไฟ


5 เทคนิค Work From Home อย่างไร ค่าไฟจึงไม่พุ่ง!

เชื่อว่าในช่วงนี้ใครหลายๆคนที่นั่งทำงานที่บ้าน ต้องได้เจอกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ความตึงเครียดจากการที่ไม่ได้พบปะผู้คน ความเหงา ความอยากเจอเพื่อนที่ทำงาน ร้อน…อยากเปิดแอร์ พัดลม ดู Netflix และเปิดอุปกรณ์ทุกสิ่งอย่างในบ้าน เพื่อชโลมจิตใจให้ตัวเราหายเศร้า คลายกังวลไปได้บ้าง… KG SOLAR ขอชวนมาลองทำวิธีเหล่านี้กัน รับประกันว่าช่วยประหยัดไฟ ค่าไฟไม่พุ่ง และอยู่บ้านกันแบบไม่เครียดอีกด้วย

Devices

1. เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับงาน

ในปัจจุบัน หลายบริษัทเริ่มมีการปรับเปลี่ยนให้พนักงานใช้ โน๊ตบุ๊ค (Notebook) หรือแท็บเล็ต (Tablet) ทำงานแทนการใช้ คอมพิวเตอร์ (Computer) ย้ายระบบเซิร์ฟเวอร์ (Server) ขึ้นคราวด์ (Clound) และบางบริษัทได้ทำ แอพพลิเคชัน (Application) สำหรับให้พนักงานทำงานผ่านมือถือเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน KGSOLAR ขอพามาดูว่าอุปกรณ์ชนิดใดใช้พลังงานเท่าไหร่ และเราสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการใช้งานอุปกรณ์ของเราให้เหมาะสมอย่างไรได้บ้าง

คอมพิวเตอร์  ค่าพลังงานไฟฟ้า เมื่อใช้งานเป็นเวลา 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 2 บาท/ชม. เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรของอุปกรณ์สูง เช่น งานเขียนแบบ งานออกแบบ งานตัดต่อ งานกราฟฟิคทั้งหลาย งานประมวลผลต่างๆ เป็นต้น

โน๊ตบุ๊ค ค่าพลังงานไฟฟ้า เมื่อใช้งานเป็นเวลา 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 0.4 บาท/ชม. เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรของอุปกรณ์ปานกลางถึงสูง เช่น งานนำเสนอ รายงานอย่างง่าย การค้นขว้า การสืบค้นข้อมูล วิจัย งานบัญชี การเงิน เอกสารต่างๆ เป็นต้น

แท็บเล็ต ค่าพลังงานไฟฟ้า เมื่อใช้งานเป็นเวลา 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 0.02 บาท/ชม. เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรของอุปกรณ์น้อยถึงปานกลาง เช่น งานวาดรูป งานนำเสนอ ดูรายงาน บันทึกประจำวัน ตรวจเอกสาร ตรวจรายงาน ดูกำหนดการ เขียนบทความ เขียนเรียงความ อ่านหนังสือ เรียน E-learning เป็นต้น

มือถือ ค่าพลังงานไฟฟ้า เมื่อใช้งานเป็นเวลา 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 0.02 บาท/ชม. เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรของอุปกรณ์น้อยถึงปานกลาง เช่น งานตอบคำถามลูกค้า ตอบแชทลูกค้า ติดต่อประสานงาน นัดหมาย จัดตาราง บันทึกต่างๆ แต่งรูป Live Blog Vlog เป็นต้น หรือเราจะนําเทคโนโลยีการออกแบบที่ยอดเยี่ยมของอุปกรณ์สมัยใหม่ มาช่วยการปรับปรุงวิธีการประหยัดพลังงาน ทดแทนการเลือกใช้อุปกรณ์ได้เหมือนกัน เช่น การใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Power Saving



2. รู้ใช้ รู้ประหยัด รู้ความคุ้มค่า

ควรวางแผนการใช้งานอุปกรณ์ที่กินไฟมากให้เป็นตารางที่ชัดเจน เพื่อให้เราสามารถปรับลด-เพิ่มใช้งานให้สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสมได้ เช่น

a.การกำหนดเปิดแอร์ 13.00-17.00 และ 21.00-03.00 สำหรับวันธรรมดา และ 10.00-06.00 สำหรับสุดสัปดาห์-ซักผ้า หรือรีดผ้าเดือนละครั้ง หรือสองสัปดาห์ครั้ง

b.การลดการใช้นํ้าอุ่นในการอาบนํ้าจากทุกวัน เป็นสัปดาห์ละครั้ง

ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่กินไฟมากพร้อมกัน

แอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ ควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง และเลือกเปิดเฉพาะแอร์ตามรายการด้านล่างเพราะถ้าเกินจากรายการนี้แสดงว่าห้องทำงานคุณต้องใหญ่มาก ควรเปลี่ยนที่ทำงานนะครับ

a.แอร์ขนาด 12,000 Btu เหมาะกับห้องขนาดน้อยกว่า 20 ตรม. ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 14 บาท/ชม.

b.แอร์ขนาด 18,000 Btu เหมาะกับห้องขนาดน้อยกว่า 30 ตรม. ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 20 บาท/ชม.

c.แอร์ขนาด 24,000 Btu เหมาะกับห้องขนาดน้อยกว่า 40 ตรม. ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 28 บาท/ชม.

เครื่องซักผ้า ไม่ควรซักด้วยเครื่องซักผ้าแล้วหล่ะจริงไหม ? เพราะคุณต้องทำงานที่บ้าน เสื้อผ้าที่ใส่ส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้าที่คุณใส่อยู่บ้านไม่ได้เปื้อน  หรือเจอสิ่งสกปรกใดๆ และยังมีปริมานที่ไม่เยอะ แต่ถ้าหากคุณจำเป็นต้องซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าจริงๆ แนะนำว่าแต่ละครั้งในการซักคุณควรใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่น้อยและมากจนเกินไป ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 20 บาท/ชม.

กระติกนํ้าร้อน ใส่น้ำให้พอเหมาะกับความต้องการ ไม่ควรใส่มากเกิน หรือน้อยเกินไป ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 2.8 บาท/ชม.

ตู้เย็น ไม่ควรนำของที่ยังร้อน หรือของที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิห้องเข้าไปไว้ในตู้เย็น และควรลดการเปิด-ปิดตู้เย็น เพราะจำนวนครั้งในการเปิด-ปิดตู้เย็นนั้นส่งผลต่อค่าไฟ และการใช้พลังงานของตู้เย็น ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 0.5 บาท/ชม.

เตารีด ไม่ควรพรมน้ำมากจนเกินไป เพราะจะทำให้สูญเสียความร้อนจากการรีด และควรถอดปลั๊กก่อนเสร็จสิ้นการรีด 3 – 4 นาที ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 4 บาท/ชม.

เครื่องทำนํ้าอุ่น ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีถังน้ำภายในตัวเครื่อง และมีฉนวนหุ้ม เพราะสามารถลดการใช้พลังงานได้มากกว่าชนิดที่ไม่มีถังน้ำภายใน ร้อยละ 10 – 20 หรือทางที่ดีไม่ต้องใช้เลย ค่าพลังงานไฟฟ้าหากเปิดใช้งาน 1 ชม. จะต้องเสียค่าไฟโดยประมาณ 13.5 บาท/ชม.


3. บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าซะบ้าง!

พัดลม ทำความสะอาดช่องลมตรงฝาครอบมอเตอร์ของพัดลม ซึ่งเป็นช่องระบายความร้อนของมอเตอร์ อย่าให้มีคราบน้ำมันหรือฝุ่นละอองเกาะจับ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของมอเตอร์ลดลง และสิ้นเปลืองไฟฟ้ามากขึ้น

กระติกนํ้าร้อน  ทำความสะอาดตัวกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าด้านใน อย่าให้มีคราบตะกรัน ซึ่งจะเป็นตัวต้านทาน การถ่ายเทความร้อนจากขดลวดความร้อนไปสู่น้ำทำให้เวลาในการต้มน้ำเพิ่มขึ้นเป็นการสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

โทรทัศน์  ไม่ควรเปิดเลยเพราะคุณต้องทำงาน! อีกทั้งยังสิ้นเปลืองไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น 

เตารีดไฟฟ้า  ตรวจดูหน้าสัมผัส หากพบคราบสกปรก ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดออก เพราะคราบสกปรกจะเป็นตัวต้านทานความร้อน ทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามากขึ้นในการเพิ่มความร้อน

แอร์ ควรถอดไส้กรองมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง และเมื่อผ่านการใช้งานมาซัก 4-6 เดือน ควรจ้างช่างแอร์มาล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเครื่องปรับอากาศ ประหยัดค่าไฟ รวมถึงยืดอายุการใช้งาน

เครื่องทำนํ้าอุ่น หมั่นตรวจสอบการทำงานของเครื่องให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบความปลอดภัยของเครื่อง

ตู้เย็น สำหรับตู้เย็นที่มีแผงระบายความร้อนควรทำความสะอาดแผงระบายความร้อน ตู้เย็นสม่ำเสมอ ถ้ามีฝุ่นเกาะสกปรกมาก จะระบายความร้อนไม่ดี มอเตอร์ต้องทำงานหนัก เปลืองไฟมากขึ้น

4. จัดห้องบ้าง… อะไรบ้าง

จัดห้องทำงาน สำหรับคนที่อยู่บ้านแถบชานเมืองอาจจะไม่พบปัญหาเรื่องฝุ่นควันเท่าไหร่ แนะนำว่าให้เปิดหน้าต่างรับอากาศธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยประหยัดพัดลม และแอร์ได้อีกด้วย สำหรับคนที่อยู่ในเมือง ของที่ไม่จำเป็นสำหรับการทำงาน ควรนำออกไป เสื้อผ้า ของกินไม่ควรนำเข้ามาภายในห้องทำงาน สำหรับคนที่พื้นที่ใช้สอยน้อยควรจัดระเบียบข้าวของอยู่เสมอ ห้องน้ำ ห้องครัวไม่ควรให้ห้องที่มีระบบปรับอากาศสามารถเชื่อมต่อกัน กับห้องเหล่านี้

ตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์นั้นสำคัญ ควรคำนึงถึงหลักถ่ายเทของอากาศไม่ขวางทิศทางลม

รักษ์โลก รักป่า ปลูกต้นไม้ สำหรับใครที่มีบ้านเป็นของตัวเอง แนะนำให้ปลูกต้นไม้ใกล้บริเวณบ้าน ต้นไม้จะช่วยลดความร้อนให้กับสภาพแวดล้อม และเมื่อบ้านเย็นลงย่อมทำให้การใช้เครื่องปรับอากาศ และพัดลมลดลงด้วย

แสงธรรมชาติก็สำคัญ การเลือกใช้ม่านกัน UV แบบทึบ หากไม่ต้องการให้บ้านสว่างในตอนกลางวันเกินไป หรือหากต้องการให้บ้านสว่าง ควรติดตั้งกระจกใสแบบกันความร้อน หรือกระจกฮีตมิเรอร์ และฮีตสต็อป สามารถทำให้อุณหภูมิให้ห้องเย็นขึ้น ไม่ร้อนจนเกินไปทำให้แอร์ก็ทำงานหนักน้อยลง

อากาศภายนอกอาคารนั้นสำคัญ ห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศกับทางเข้าบ้าน ไม่ควรเชื่อมต่อกันโดยตรง เพราะอุณภูมิภายนอกสามารถเข้ามาในห้องได้อย่างรวดเร็ว ควรเว้นระยะระหว่างห้อง หรือใช้ฉากกันห้องเป็นตัวกันไม่ให้อุณหภูมิภายนอกเข้ามาในห้องปรับอากาศเร็วจนเกินไป

5. ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับประหยัดพลังงาน

การเปลี่ยนหลอดแบบประหยัดพลังงาน (LED)

หลอดไฟฟ้า LED หรือ Light-emitting diode โดดเด่นในด้านการประหยัดไฟฟ้าเนื่องจากใช้ไฟน้อยกว่าหลอดแบบอื่นๆแต่ให้แสงสว่างที่มากขึ้น นอกเหนือจากที่กล่าวไว้ ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงให้มีโทนสีที่ให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งอบอุ่น สว่าง และสว่างมาก มีให้เลือกใช้มากมายหลายรูปแบบตามความต้องการ โดยถ้าหากเราเปลี่ยนหลอดไฟธรรมดาไปเป็น หลอดไฟฟ้า LED หรือ Light-emitting diode ทั้งหมด จะสามารถลดการไฟฟ้าในด้านแสงสว่างสูงสุดถึง 50%

เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงานหรือ มีฉลากเบอร์ 5

ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 คือฉลากที่บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 โดยที่เบอร์ 5 หมายถึงประหยัดไฟมากที่สุด คือมีอัตราการประหยัดพลังงาน (Energy Efficiency Ratio : EER) มากกว่า 11.0 หน่วย

การติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านพักอาศัย (Solar Power System)

หลักการทำงานเป็นอย่างไร? : ระบบโซลาร์เซลล์จะนำแสงอาทิตย์ที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดในช่วงกลางวันมาเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าสำหรับจ่ายให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทดแทนการใช้ไฟฟ้าที่ต้องซื้อจากการไฟฟ้า

ประหยัดไฟฟ้าได้อย่างไร? : ทดแทนการซื้อไฟจากการไฟฟ้า นำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟ จึงสามารถใช้ไฟได้ฟรีๆ ในช่วงกลางวัน หรือจะเก็บมาใช้งานช่วงกลางคืนได้

เปรียบเทียบให้พอเห็นภาพได้อย่างไร? :

* แอร์ขนาด 12,000 Btu กินไฟประมาณ 3 หน่วย/ชม. x จำนวนชม.ที่เปิด = หน่วยไฟที่ใช้ต่อวัน


เริ่มประหยัดพลังงานวันนี้

KG SOLAR

ติดต่อขอรับคำปรึกษาระบบประหยัดพลังงานแบบครบวงจร 095-945-9000

by Panudech Ponlawan on April 05, 2020


Prev เคล็ดลับกำจัดไวรัส Covid19 ภายในบ้าน

เคล็ดลับกำจัดไวรัส Covid19 ภายในบ้าน

27 September 2022

Work From Home Promotion

27 September 2022
Next Work From Home Promotion

Related Posts

Read More
ข่าวสารบทความที่น่าสนใจพลังงานทางเลือก
27 September 2022by admin

โซล่ารูฟท็อป ผู้ช่วยสร้างความประหยัด 3 สไตล์ ในแบบที่คุณคาดไม่ถึง

3 ข้อดี ของโซล่ารูฟท็อป ที่คุณควรรู้
Read More
บทความที่น่าสนใจพลังงานในชีวิตประจำวัน
24 September 2022by admin

ทิศทางโซลาร์เซลล์ในอนาคตของประเทศไทย

โซลาร์เซลล์กำลังเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย...

เรื่องล่าสุด

  • ชวนคุณอ่าน 12 รายชื่อบริษัทโซล่าเซลล์ในไทย 2025
  • รู้จักระบบโซล่าเซลล์แบบไฮบริด ข้อดีข้อเสียก่อนติดตั้ง ครบจบในที่เดียว
  • ทำความเข้าใจ อินเวอร์เตอร์ คืออะไร ทำงานอย่างไร มีกี่ประเภท
  • โซลาร์เซลล์ 5kw ราคาเท่าไหร่ เพียงพอต่อบ้านพักอาศัยหรือไม่
  • ไขข้อสงสัยต้องขอใบอนุญาต รง.4 โซลาร์เซลล์ ก่อนติดตั้งหรือไม่
หมวดหมู่
  • ข่าวสาร85
  • บทความที่น่าสนใจ153
  • พลังงานทางเลือก58
  • พลังงานในชีวิตประจำวัน28
  • ไม่มีหมวดหมู่1

ภายใต้บริษัท KG Corporation   

KG Solar คือบริษัทติดตั้งโซลาร์เซลล์ บริษัทเดียวในประเทศไทยที่มีประสบการณ์ด้านงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้ามายาวนาน

กว่า 36 ปี บริษัทให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร ด้วยมาตรฐาน ISO 9001:2015 และ ISO 50001:2018 โดยได้ออกแบบ และติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ มาแล้วกว่า 100 MWp ทั่วประเทศ บริษัทพร้อมจะอยู่เคียงของคุณไปตลอดอายุการใช้งานระบบโซลาร์เซลล์

ติดต่อเรา

บริษัท เค.จี. คอร์ปอเรชั่น จำกัด

อาคาร เอส.เอน.ที. เลขที่ 6 ซอยเรวดี 7 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ 095-947-9000
แฟกซ์ 02-951-5535
อีเมลล์ info@kgcorp.com

บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์

เพื่อบ้าน

เพื่อธุรกิจ

บทความที่น่าสนใจ

ผลงานการติดตั้ง

เกี่ยวกับบริษัท

รับข้อมูลข่าวสาร

ติดตามข่าวสารและข้อมูลใหม่ล่าสุดกับเรา

     

    Facebook-f Instagram Youtube

    Copyright © 2022 BY K.G. Corporation CO.,LTD. All Rights Reserved